ข้อมูลพื้นฐาน
ที่ตั้งเทศบาลตำบลปากน้ำฉวาง
สำนักงานเทศบาลตำบลปากน้ำฉวาง ได้รับการจัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องเปลี่ยนชื่อองค์การบริหารส่วนตำบลฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำฉวาง และจัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลปากน้ำฉวาง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 โดยสำนักงาน ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 211 หมู่ที่ 7 ถนนแหลมยูง-วังม่วง ตำบลฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากอำเภอฉวาง ประมาณ 4 กิโลเมตร และห่างจากอำเภอเมือง ประมาณ 75 กิโลเมตร
ทิศเหนือ ติดต่อตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทิศตะวันออก ติดต่อตำบลไสหร้า และตำบลจันดี อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทิศใต้ ติดต่อตำบลทุ่งสง อำเภอนาบอน, ตำบลหลักช้าง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทิศตะวันตก ติดต่อตำบลนากะชะ อำเภอฉวาง, ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช
เนื้อที่
เนื้อที่ 27 ตารางกิโลเมตร หรือ 16,875 ไร่
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพทั่วไปของพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำ และที่ราบสูงบางส่วน มีพื้นที่ ทำการเกษตร 11,230.56 ไร่ มีแม่น้ำสายหลักไหลผ่าน คือ แม่น้ำตาปี และลำคลองอีก 2 แห่ง คือ คลอง คุดด้วน และคลองมีน
ลักษณะของดิน
บริเวณเทศบาลเป็นดินเนื้อละเอียด มีอินทรีย์วัตถุน้อย เหมาะสำหรับการเพาะปลูก ลักษณะของดินเป็นดินเนื้อหยาบ มีอินทรีย์วัตถุน้อยเหมาะสำหรับการปลูกไม้ยืนต้น
เทศบาลตำบลปากน้ำฉวาง มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นหน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.๒๕๓๗
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่มที่ ๑๑๓ ตอนพิเศษ ๕๒ ง ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๙
คำว่า “ฉวาง” น่าจะมาจากคำว่า “ขวาง” ดังที่ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช (ระเบียงตีนธาตุ)
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้กล่าวถึงการทำระเบียงล้อมพระบรมธาตุเจดีย์ และอีกตอนหนึ่งมีความว่า “ขุนศรีพลแปดอ้อมแสนเมืองขวางเจ้าเมืองสระสี่ห้อง” และอีกตอนหนึ่งมีความว่า “ขุนศรีพลแปดอ้อมแสนเมืองขวางเอาเชงทำกุฎีวัดคูหา วัดฉวาง วัดลำพูน เอามามุงพระทำศาลา” ต่อมาคำนี้กลายเป็นเสียง “ฉวาง” และใช้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ล่วงมาถึง พ.ศ. 2354 ในแผ่นดินรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นศักดิ์พลเสพย์ กราบทูลพระกรุณาว่า ข้าหลวงกรมการเมืองนครขาดอยู่ มิครบตามตำแหน่งจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเสริมให้ครบตามตำแหน่ง ณ วันจันทร์ เดือน 12 ขึ้น 5 ค่ำ ปีมะเมีย ศรีศก พ.ศ. 2354 ว่าเมืองขวาง หรือฉวาง มีฐานะเป็น”แขวงที่ฉวางท่าชี” ประกอบด้วยที่และอำเภอ คือแขวงที่ท่าชี มีหมื่นเพชรธานี นายที่ฉวางท่าชี ที่พดชมโรที่กะเที่ยงที่ต่อขนุน ศักดินา 800 ฝ่ายขวา มีขุนอินทบุรี เป็นรองที่ฉวางท่าชี ศักดินา 400 มีที่แขวงที่ และอำเภอ ซึ่งขึ้นกับแขวงนี้คือ อำเภอท่าชี อำเภอวัดขรม อำเภอน้ำพุ และแขวงที่ฉวางท่าชี มีผู้ปกครองถือศักดินาคนละ 200 เท่ากัน ได้แก่หมื่นไชยบุรี หมื่นแสนบุรี หมื่นจิตรบุรี หมื่นยมบุรี และพันอินทร์ตามลำดับ
อบต.ฉวาง ครั้นถึงพ.ศ. 2440 กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้หลวงพำนักนิคมคาม นายอำเภอทุ่งสงสมัยนั้นไปตรวจราชการในพื้นที่บ้านจันดี ทานพอ กระเปียด กะทูน พิปูน ลำพูน ละอาย และช้างกลาง
ได้พิจารณาเห็นว่า ท้องที่ดังกล่าวสมควรจัดตั้งเป็นอำเภอได้ และควรยุบรวมบางเมืองลงแล้วตั้งเป็นตำบลขึ้นใหม่ เพื่อให้สะดวกแก่การปกครองดูแลราษฎร ตามนโยบายปฏิรูปการปกครองหัวเมือง ด้วยเหตุนี้ กระทรวงมหาดไทยจึงให้ยุบเมืองกะเปียด เมืองพิปูน เมืองหลักช้าง เมืองละอาย และเมืองฉวางท่าชี
หลังปรับเป็นตำบล ตามชื่อเดิมตั้งเป็น”อำเภอฉวาง”
วิสัยทัศน์การพัฒนาจังหวัด

“นครแห่งการเรียนรู้ เป็นเมืองน่าอยู่ สู่สังคมพัฒนายั่งยืน”

พันธกิจ (Mission)
1. ขจัดปัญหาความยากจน
2. พัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ
3. เพิ่มผลผลิตและรายได้จากการเกษตรและการท่องเที่ยว
4. พัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5. การพัฒนาองค์กรและการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี